วงการฟุตบอลเป็นอีกหนึ่งธุริกิจที่มีเม็ดเงินไหลเวียนสะพรั่ง เจ้าของทีมบอลในยุโรป มีทั้งเรื่องของกีฬาเพื่อความบันเทิงรวมถึงเรื่องการพนันบอลที่มีควบคู่มากันมานาน แต่ยุคสมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนามีการเปิดแทงบอลออนไลน์บริการผู้คนทั่วโลก ที่จะต้องเงินกำไรจากการแทงบอล แต่งนักธุรกิจไม่สนใจจะพนันแบบคนทั้งโลก https://www.godoublevision.com
บรรดานักธุริกิจต้องการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเนื่องจากเงินในประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดมีมูลค่านับหมื่นล้านบาทย้อนรอยไปในนักธุรกิจที่เคยเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลในยุโรปรวมถึงบางรายที่เป็นเจ้าของสโมสรอยู่ก็ตาม มีท่านใดบ้างที่ทุ่มเม็ดเงินจำนวนมหาศาลงทุนไปกับเป็นเจ้าของสโมสรบ้าง
- ทักษิณ ชินวัตร สร้างความฮืฮฮามากเนื่องจากเป็นคนไทยคนแรกที่ตลุยตลาดวงการกีฬายุโรป ใช้เงินลงทุนจำนวน 81.6 ล้านปอนด์ คิดเป็นค่าเงินไทยประมาณ 5,700 ล้านบาท ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อย จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี เมื่อปี 2550 ต่อมาภายหลังเสี่ยแม้วก็ทำกำจาการขายเสมอสโสรเรือใบให้ บริษัท อาบูดาบี ยูไนเต็ดกรุ๊ป อินเวสท์ เมนท์ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ลิมิเต็ด กลุ่มทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นจำนวนถึง 150 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 9,000 ล้านบาท นับว่าเป็นกำไรที่ไม่น้อย
- วิชัย ศรีวัฒนประภา นายใหญ่”คิงเพาเวอร์” เป็นอีกหนึ่งท่านที่ลงทุนเงินจำนวน 35 ล้านปอนด์ ซื้อสโมสรเลสเตอร์ ซิตี เมื่อสิงหาคม 2553 ตอนนั้นเลสเตอร์ซิตี้ยังเล่นอยู่ในลีก เดอะ แชมเปียนชิป หลังจากเจ้าสัววิชัยได้เป็นเจ้าของเลสเตอร์มีการลงทุนสู่นักเตะพัฒนาทีมก็สามารถคว้าแชมป์ลีกเดอะแชมเปียนชิฟ เลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก พร้อมสร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่เมื่อเลสเตอร์สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เมื่อฤดูกาล 2015-2016 นับว่าเป็นการประวัติศาสตร์อันใหญ่ที่เจ้าสัววิชัยมอบให้สโมสร
แม้วงการฟุตบอลสมัยนี้จะเป็นเรื่องของธุรกิจนั่นก็เป็นเรื่องของภายนอกสนาม เมื่อเปรียบเทียบกับการลงสนามของนักเตะที่ทุ่มเททำผลงานให้กับทีม การต่อสู้อันดุเดือดภายในสนามก็ยังเป็นมนต์เสน่ห์ให้แฟนบอลมากกว่าเรื่องธุรกิจนอกสนาม https://ic-musicmedia.com